วันคริสต์มาส (Christmas) เป็นเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ เป็นวันที่ผู้คนทั่วโลก ให้ความสนใจเฉลิมฉลอง และให้ความสำคัญมากที่สุด เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ความยินดี และความปราบปลื้มใจของชาวคริสต์ ที่จัดขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง การทรงมาบังเกิดของพระเยซูคริสต์ โดยตามปฏิทินแล้ว จะตรงกับวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี แต่วันดังกล่าวอาจไม่ได้ตรงกับวันประสูติ ของพระเยซูคริสต์จริงๆ แต่วันดังกล่าว ได้ถูกเลือกไว้ตั้งแต่ในอดีต เพื่อให้สอดคล้องกับเทศกาลของโรมัน หรือให้สอดคล้องกับช่วงวันที่มีกลางวันสั้นที่สุด ( winter solstice )
วันคริสต์มาส (Christmas) เป็นเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ เป็นวันที่ผู้คนทั่วโลก ให้ความสนใจเฉลิมฉลอง และให้ความสำคัญมากที่สุด เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ความยินดี และความปราบปลื้มใจของชาวคริสต์ ที่จัดขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง การทรงมาบังเกิดของพระเยซูคริสต์ โดยตามปฏิทินแล้ว จะตรงกับวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี แต่วันดังกล่าวอาจไม่ได้ตรงกับวันประสูติ ของพระเยซูคริสต์จริงๆ แต่วันดังกล่าว ได้ถูกเลือกไว้ตั้งแต่ในอดีต เพื่อให้สอดคล้องกับเทศกาลของโรมัน หรือให้สอดคล้องกับช่วงวันที่มีกลางวันสั้นที่สุด ( winter solstice )
สำหรับชาวคริสต์แล้ว วันคริสต์มาสถือได้ว่าเป็นข่าวดี สำหรับมวลมนุษย์ทั้งหลาย ที่เต็มไปด้วยความบาป ที่จะได้รับการไถ่ชีวิต ด้วยการทรงมาบังเกิดของพระเยซูคริสต์ เพราะนอกจากพระเยซูคริสต์แล้ว ไม่มีทางใดเลย ที่นำจะมนุษย์ผู้ที่เต็มไปด้วยความบาป กลับไปสู่การคืนดี กับองค์พระผู้เป็นเจ้า และถูกชำระล้างความบาปผิดได้ นอกจากทางพระเยซูคริสต์ เพียงทางเดียวเท่านั้น “เพราะพระเจ้าทรงรักโลก จนได้ประทานพระบุตร องค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้น จะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์ (ยอห์น 3:16)”
คริสต์มาส
วันคริสต์มาส สำคัญอย่างไร ?
คำว่า “Christmas” (คริสต์มาส) มาจากการประสมคำของ “Christ’s Mass” ซึ่งมาจากคำว่า Christemasse ของภาษาอังกฤษยุคกลาง ในภาษากรีกตัวอักษร X เป็นตัวอักษรแรกของคำว่า “Christ” จึงมีการเขียนแบบย่อว่า X’mas
วันคริสต์มาส เป็นเทศกาลที่ชาวคริสต์ เฉลิมฉลองการทรงมาบังเกิดของพระเยซู โดยการระลึกถึงพระคุณ ที่พระเจ้าได้ทรงมอบไว้ให้ สำหรับมนุษย์ที่เต็มไปด้วยบาป ซึ่งไม่สมควรได้รับ แต่พระเจ้าทรงรักมนุษย์ทุกคนมาก จึงได้ประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ ซึ่งก็คือ พระเยซูคริสต์ ให้มาไถ่บาปแทนมนุษย์ทุกคน บนไม้กางเขน เพื่อให้มนุษย์ได้รอดพ้นจากความบาป และกลับสู่การคืนดีกับพระเจ้า (GOD)
โดยมีการเฉลิมฉลอง โดยการมอบความรักให้แก่กัน มีการอวยพร มีการจัดต้นคริสต์มาส มีซานตาคลอส มีการมอบของขวัญให้แก่กัน ซึ่งเป็นเทศกาลที่มีระยะเวลานานถึง 12 คืน แต่กิจกรรมเหล่านี้ ก็ไม่ได้สำคัญ หรือเป็นประเด็นหลัก สำหรับชาวคริสต์มากเท่ากับการระลึก และการขอบพระคุณ ด้วยใจถ่อมมากกว่า
สำหรับชาวคริสต์ มีความเชื่อว่า เทศกาลคริสต์มาส เป็นวันประสูติของพระเยซูคริสต์ ที่ได้ถูกบันทึกในพระคัมภีร์ (Bible เป็นหนังสือที่ขายดี ที่สุดในโลก) ระบุไว้ว่า พระเจ้าถือกำเนิด จากครรภ์ของหญิงพหรมจารี ที่มีชื่อว่า มารีย์ ( มัทธิว 1:18-2:12, ลูกา 1:26-2:40 )
สีที่เกี่ยวข้องกับวันคริสต์มาส ?
สีน้ำเงิน : มาจาก คำพยากรณ์ที่สัมฤทธิ์ผล
ซึ่งตรัสโดยผู้เผยพระวจนะว่า “ดูเถิด หญิงพรหมจารีย์คนหนึ่ง จะตั้งครรภ์และคลอดบุตรชายคนหนึ่ง และเขาจะเรียกนามของท่านว่า “อิมมานูเอล” แปลว่าพระเจ้าทรงอยู่กับเรา” (มัทธิว 1:22-23) องค์พระเยซูคริสต์ได้เสด็จมาสู่โลกมนุษย์ ที่หมู่บ้านเบธเลเฮ็ม ทรงเป็นผู้ประกอบด้วยพระสิริ ฤทธิ์เดชความรัก และพระกรุณาธิคุณ ที่ทรงมีต่อมวลมนุษย์ชาติ
สีเหลือง : มาจาก การนำข่าวดีมาสู่มนุษย์
เสียงจากเหล่าทูตสวรรค์ดังก้องว่า “อย่ากลัวเลย เพราะเรานำข่าวดีมายังท่านทั้งหลาย คือ ความปรีดียิ่ง ซึ่งจะมาถึงคนทั้งปวง เพราะว่าในวันนี้ พระผู้ช่วยให้รอดของท่านคือ พระคริสต์เจ้า ทรงมาบังเกิดที่เมืองดาวิด”
สีเขียว : มาจาก ผู้ปลอบประโลม
พระเจ้าเป็นผู้เลี้ยงที่ดีเลิศ พระสุรเสียงของพระองค์ดังก้องอยู่ทุกเวลา “เราอยู่กับเจ้า เราอารักขาเจ้า เราจะดูแลเจ้าตลอดไป ประชากรของพระองค์จะไม่กลัวอันตรายใดๆ เพราะพระองค์ทรงสถิตอยู่ด้วย ปลอบประโลมใจ และชีวิต ปลอดภัยทุกวันคืน”
สีแดง : มาจาก อาหารแห่งชีวิต
พระเยซูคริสต์พระองค์ทรงเป็นอาหารแห่งชีวิต ดังที่พระองค์ตรัสไว้ในพระกิตติคุณยอห์น “เพราะว่าอาหารของพระเจ้านั้นคือ ท่านที่ลงมาจากสวรรค์และประทานชีวิตให้แก่โลก เราเป็นอาหารแห่งชีวิต ผู้ที่มาหาเราจะไม่หิว และผู้ที่วางใจในเราจะไม่กระหายอีกเลย” (ยอห์น 6:33-35)
สีขาว : มาจาก การสุขสันต์วันคริสต์มาส
ผู้เผยพระวจนะอิสยาห์ได้กล่าวไว้ “พระองค์ไม่นำกองทัพ หรืออาวุธมาให้มนุษย์ทำลายล้างกัน แต่พระองค์ทรงนำข่าวดี นำความรัก ความเมตตา การหนุนใจ การคืนดี การยกโทษและการให้อภัย”
ชาวไทยส่วนใหญ่เข้าใจผิดว่า วันคริสต์มาสเป็นวันเฉลิมฉลอง ของชาวตะวันตก ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับชาวไทยโดยตรง ซึ่งที่จริงแล้ว วันคริสต์มาสเป็นวันเฉลิมฉลอง การทรงมาบังเกิดของพระเยซูคริสต์ เพื่อไถ่บาปให้กับมนุษย์ทุกคน ที่วางใจในพระบุตร ซึ่งก็คือผู้ที่เชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์ ไม่ได้เกี่ยวกับชนชาติใดชนชาติหนึ่ง แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับมนุษย์บนโลกนี้ทุกคน