ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกระบุว่า ประมาณ 1 ใน 3 ของผู้เสียชีวิตทั้งหมด เกี่ยวข้องกับโรคหลอดเลือดหัวใจ แต่อย่างไรก็ตาม ชาวรัสเซียส่วนใหญ่ไม่เคยได้ยิน ว่าพวกเขามีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ ซึ่งความลับอยู่ในผลิตภัณฑ์ที่ทุกคน ได้ยินคุ้นหูกันอยู่แล้ว นั่นก็คือ ” น้ำมันปลา “
น้ำมันปลา มีกรดไขมันชนิดที่ ไม่สามารถถูกแทนที่ได้ เช่น โอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ที่ช่วยทำให้หัวใจ และหลอดเลือดของเราแข็งแรง แล้วคุณคิดว่า หากตัวคุณเอง ใช้น้ำมันปลาทุกวันเป็นประจำ จะเกิดอะไรขึ้น ?
เกิดอะไรขึ้น หากคุณใช้ น้ำมันปลา ทุกวัน ?
1. ช่วยกำจัดความเครียด
กรดไขมันไม่อิ่มตัว สามารถเพิ่มการผลิตเซโรโทนิน ( serotonin ) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำหน้าที่สร้างอารมณ์ที่ดี ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ง่าย ที่ช่วยคุณในการจัดการความเครียดได้ ในบางกรณีน้ำมันปลา ยังถูกกำหนด ให้ใช้กับเด็กที่มีอาการสมาธิสั้น และขาดสมาธิ
จากข้อมูลการศึกษาวิจัยน้ำมันปลา พบว่ายังสามารถมีอิทธิพลในเชิงบวก ต่อผู้ที่เป็นโรคจิตเภท และโรคทางจิตอื่นๆ
2. ภูมิคุ้มกันดีขึ้น
ในน้ำมันปลา ช่วยกระตุ้นทำให้ระบบภูมิคุ้มกัน แข็งแรงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งยังช่วยป้องกันให้ร่างกาย สามารถจัดการกับการติดเชื้อต่างๆ ที่อาจเข้าสู่ร่างกายได้ดี
3. ความเสี่ยงโรคหัวใจลดลง
กรดไขมันโอเมก้า 3 และกรดโอเมก้า 6 ที่มีในน้ำมันปลา สามารถช่วยลดความเสี่ยง ต่อการเป็นโรคหัวใจ ทำให้ระดับของไตรกลีเซอไรด์ลดลง การปรากฏของคราบจุลินทรีย์ บนอวัยวะภายในหลอดเหลือดแดงจะลดลง และความดันโลหิตลดลง

4. การคิดรวดเร็ว และดีขึ้น
โอเมก้า 3 มี docosahexaenoic acid (DHA) ที่ช่วยให้เยื่อหุ้มเซลล์แข็งแรง และเสริมสร้างการเชื่อมต่อของเซลล์ประสาท เหตุผลเหล่านี้ จึงทำให้เราสามารถใช้ น้ำมันปลาเป็นการป้องกัน โรคอัลไซเมอร์
จากการศึกษาจำนวนมาก แสดงให้เห็นว่าน้ำมันปลา ยังช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง และช่วยเพิ่มเวลาในการตอบสนอง การทำงานของสมองที่สูงขึ้น และความเร็วในการตัดสินใจ
5. ความดันตาลดลง
แพทย์สามารถสั่งน้ำมันปลา สำหรับผู้ที่มีโรคต้อหิน เพราะกรดไขมันในน้ำมันปลา สามารถช่วยในการกำจัดของเหลวในตา ซึ่งส่งผลทำให้ความดันตาลดลง
แน่นอนว่าน้ำมันปลา ไม่สามารถรักษาได้อย่าง 100 % แต่นักวิจัยหลายคนยังคิดว่า โอเมก้า 3 ที่มาจากแหล่งอาหารชนิดอื่น สามารถช่วยป้องกัน ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับสายตาได้
6. ช่วยลดอาการอักเสบ
มีการศึกษาหนึ่งที่อ้างว่า กรดโอเมก้า 3 ช่วยลดอาการอักเสบ และอาการปวดกล้ามเนื้อ หลังจากออกกำกาย และยังสามารถช่วยป้องกัน โรคข้ออักเสบได้ด้วย
การทดลองกับกล้ามเนื้อ พบว่ากรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน สามารถช่วยป้องกันเซลล์ประสาทจากการบาดเจ็บ และเสียชีวิต
7. ได้รับวิตามินและแร่ธาตุเพิ่มขึ้น
ในน้ำมันปลายังมีแร่ธาตุ และวิตามินที่แตกต่าง ขึ้นอยู่กับประเภทของปลา และปัจจัยอื่นๆ ดังนั้นน้ำมันปลา จึงไม่สามารถมีวิตามินหลายชนิด
อย่างไรก็ตามน้ำมันปลา เป็นแหล่งเพิ่มเติมของวิตามิน A และวิตามิน D ที่สามารถช่วยดูดซับแคลเซียม และฟอสฟอรัส โดยในอดีตมีการกำหนดให้ใช้น้ำมันปลา สำหรับผู้ที่ขาดวิตามินดี และให้เด็กเพื่อป้องกัน โรคกระดูกอ่อน
8. ขนาดของเต้านมใหญ่ขึ้น
การวิจัยแสดงให้เห็นว่า ไขมันไม่อิ่มตัว สามารถเพิ่มขนาดเต้านม โดยคุณสามารถกิน น้ำมันมะกอก ถั่วแห้ง เต้าหู้ สาหร่ายทะเล หรือใช้น้ำมันปลา ซึ่งนี่เป็นอีกวิธีธรรมชาติ ในการช่วยทำให้เต้านมใหญ่ขึ้น
9. ช่วยลดน้ำหนัก
การวิจัยนักวิทยาศาสตร์พบว่า การทานน้ำมันปลาเป็นประจำ จะช่วยลดความอยากอาหาร และทำให้รู้สึกอิ่มหลังจากรับประทานอาหาร
นักวิทยาศาสตร์บางคนคิดว่า แหล่งโอเมก้า 3 ช่วยเพิ่มความสามารถของร่างกาย ในการสลายไขมัน ดังนั้นแทนที่จะเก็บไขมันสะสมในร่างกาย ควรเปลี่ยนใช้มันเป็นแหล่งพลังงาน สำหรับกิจวัตรประจำวัน
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด ที่ควรรู้เกี่ยวกับน้ำมันปลา คือ มีแคลอรี่จำนวนมาก
10. ผิวแข็งแรง
น้ำมันปลามีอิทธิพลในเชิงบวกต่อผิว เนื่องจากกรดโอเมก้า 3 สามารถเก็บคอลลาเจน ซึ่งเป็นรากฐานของความยืดหยุ่นของผิว ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย และมีฤทธิช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งที่สุด
สิ่งที่คุณควรคำนึง คือ การเลือกน้ำมันปลาที่ดี เพราะส่วนใหญ่น้ำมันปลาทำมาจากตับปลา ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและมีราคาถูก แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน
น้ำมันปลาที่ทำมาจากเนื้อสัตว์ และกล้ามเนื้อของปลา จะมีประโยชน์มากกว่า และจะดีที่สุดหากมาจากปลาแซลมอน
เพื่อให้ดีที่สุดสำหรับร่างกาย และไม่เป็นอันตราย คุณจำเป็นต้องรู้วิธีการใช้น้ำมันปลา อย่างถูกต้อง และหากพบว่าตนเองมีอาการแพ้ปลา หรือมีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น เกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ ตับ หรือระบบย่อยอาหาร ฯลฯ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน
และนอกจากนี้ หญิงระหว่างตั้งครรภ์ และให้นมบุตร ควรงดใช้ เพราะอาจส่งผลกระทบที่อาจเป็นอันตรายได้